ข่าวทั่วไป  :  มวลน้ำล้น “เขื่อนลำคันฉู” ชัยภูมิ ไหลหลากต่อท่วม อ.จัตุรัส

         ชัยภูมิ- มวลน้ำล้น “เขื่อนลำคันฉู” ชัยภูมิ ไหลหลากต่อจาก อ.บำเหน็จณรงค์ ทะลักเข้าท่วม อ.จัตุรัส อ่วมเพิ่มอีกอำเภอแล้ว ชาวบ้านหนองลูกช้าง กว่า 180 ครอบครัว ถูกตัดขาดเดือดร้อนหนักมากน้ำท่วมสูง 1-2 เมตรปิดล้อมหมู่บ้าน ไม่มีไฟฟ้าใช้และรถยนต์ทุกชนิดเข้า-ออกไม่ได้ ต้องใช้เรือเท่านั้น ด้านผู้ว่าฯ รุดลงพื้นที่ช่วยเหลือและมอบถุงยังชีพบรรเทาทุกข์ด่วน

         วันนี้ ( 31 ก.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม จ.ชัยภูมิ จากอิทธิพลพายุเซินกา ทำให้เกิดฝนตกหนักมาต่อเนื่องตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เขื่อนลำคันฉู มีปริมาณน้ำมากเกินความจุล้นสันเขื่อนทะลักไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์ หนักสุดในรอบหลาย 10 ปี ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1.5 เมตร เริ่มทรงตัวและลดระดับลง ล่าสุดอยู่ที่ 50 ซม.- 1 เมตร มีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 7 ตำบล 95 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรไร่นา จมน้ำเสียหายกว่า 50,000 ไร่

         ล่าสุดเช้าวันนี้ (31 ก.ค.) มวลน้ำได้ไหลหลาก จาก อ.บำเหน็จณรงค์ ที่ไม่สามารถควบคุมน้ำ ได้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่ อ.จัตุรัส ในเขต ต.บ้านขาม อ.จตุรัส แล้ว โดยเฉพาะหมู่บ้านหนองลูกช้าง ต.บ้านขาม ประชาชนกว่า 180 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1-2 เมตร รวมทั้งพื้นที่การเกษตรนาข้าว ที่กำลังออกผลผลิตจมน้ำได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 8,000 ไร่

 

         ทางด้าน นายชูศักดิ์ ตรีสาร ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้นำคณะเหล่ากาชาดจังหวัดชัยภูมิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมบ้านหนองลูกช้าง ต.บ้านขาม อ.จตุรัส พร้อมมอบถุงยังชีพช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับราษฎรผู้ประสบภัยในครั้งนี้

         นายสำเภา เทียนขุนทด อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 30 บ้านหนองลูกช้าง ม.3ต.บ้านขาม อ.จัตุรัส กล่าวว่าในหมู่บ้านดังกล่าวมีพื้นที่คล้ายเกาะถูกน้ำท่วมล้อมรอบ และถูกตัดขาดจากโลกภายนอกทันทีเพราะระดับน้ำท่วมสูงกระแสน้ำมีความรุนแรง การเข้าออกชุมชนไม่สามารถใช้รถยนต์ทุกชนิดสัญจรเข้าออกได้ ต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คาดว่าจะถูกน้ำท่วมขังในพื้นที่นานต่อจากนี้ไปกว่า 3 สัปดาห์-1 เดือน เนื่องจากเป็นแอ่งกระทะไม่สามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้ง่าย

         รวมทั้งขณะนี้กระแสไฟฟ้าภายในหมู่ใช้การไม่ได้ เพราะถูกตัดกระแสไฟทั้งหมดแล้วเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากน้ำท่วมสูง จึงทำให้ราษฎรในพื้นที่กว่า 180 ครอบครัว ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักมาก

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ  :  http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000077503