ข่าวแม่สอด  :  โจรอุกอาจ งัดที่ทำการชุมชนกลางเมืองแม่สอด ขนทรัพย์สินไปเรียบ

คนร้ายบุกงัดอาคารที่ทำการชุมชนกลางเมืองแม่สอด กวาดทรัพย์สินแบบยกศูนย์ ไม่เว้นแม้กระทั่งเครื่องขยายเสียงและ ถ้วย-ถัง-กะละมัง หม้อ ก็ถูกคนร้ายขโมยไปเกือบหมด ผู้สูงอายุทั้งชุมชนเดือดร้อนหนัก

         เช้าวันนี้(16 ก.ค.) พันตำรวจโท ทรงวัฒน์ คันทะมูล สารวัตรเวรสอบสวน สภ.แม่สอด จังหวัดตาก รับแจ้งจากนายสำราญ นามราช อายุ 42 ปี ว่ามีเหตุคนร้ายบุกงัดอาคารที่ทำการชุมชนจ๊อกจอ ถนนชิดวนา เขตเทศบาลนครแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หลังรับแจ้งเหตุจึงประสานตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตาก ตำรวจฝ่ายสืบสวนแม่สอด และฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ร่วมกันเข้าตรวจสอบ

         ที่เกิดเหตุพบกลุ่มชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุจำนวนมากมารอดูการตรวจสถานที่เกิดเหตุ โดยที่อาคารสูงสองชั้นซึ่งเป็นที่ทำการชุมชนจ๊อกจอ และเป็นที่ทำการของชมรมผู้สูงอายุของชุมชน และอยู่ย่านใจกลางเมืองแม่สอด ตำรวจเข้าตรวจสอบภายในอาคารที่เกิดเหตุ พบว่าคนร้ายใช้ของแข็งทุบประตูด้านหลังอาคารเป็นรูขนาดใหญ่ ก่อนคนร้ายจะใช้อุปกรณ์ไม่ทราบชนิดงัดประตูเหล็กดัดที่สร้างติดกับประตูใหญ่เปิดออก ก่อนคนร้ายไม่ทราบจำนวนจะมุดตัวเข้าไปภายในอาคาร เข้าทำการรื้อค้นทรัพย์สินของมีค่าทุกอย่างกระจัดกระจายเต็มอาคาร

         เบื้องต้นพบว่าคนร้าย ขโมยเครื่องขยายเสียงพร้อมอุปกรณ์ไปยกชุด และยังขโมยพัดลมตั้งโต๊ะอย่างดีไปจำนวน 5 ตัว เท่านี้ยังไม่พอคนร้ายยังขโมยเครื่องใช้ของส่วนรวมของชุมชนเป็นทั้ง ถ้วย-ถังกะละมัง -หม้อ ตลอดรวมถึงช้อนส้อม ผ้าปูโต๊ะ คนร้ายรายนี้ก็ไม่เว้นขโมยติดมือไปรวมมูลค่าหลายหมื่นบาท ก่อนจะรีบหลบหนีออกทางเดิมที่เข้ามาในอาคาร โดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆไว้ในที่เกิดเหตุเลย และอาคารหลังเกิดเหตุก็ไม่มีกล้องวงจรปิดจึงไม่สามารถเห็นรูปร่างใบหน้าของคนร้ายรายนี้ได้

        ด้านนาย สำราญ นามราช ประธานชุมชน จ๊อกจอ ให้การกับเจ้าหน้าที่ ว่าอาคารแห่งนี้เปิดทำการได้กว่าสองปีแล้ว และถูกใช้เป็นที่ทำการชุมชนและที่จัดกิจกรรมของชมรมผู้สูงอายุเพื่องานสาธารณะส่วนรวม โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองได้เดินทางมาเปิดอาคารเพื่อจะทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในชุมชนและผู้สูงอายุ แต่พอเปิดประตูด้านหน้าอาคารออกก็ถึงกับตกใจ เมื่อพบว่าทรัพย์สินของส่วนรวมถูกรื้อค้นกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณตัวอาคาร ขโมยทุกอย่างที่ขวางหน้าทั้งของชิ้นเล็กชิ้นใหญ่คนร้ายก็ขโมยไปเกือบหมด

         แต่ที่ส่งผลกระทบมากตอนนี้ พบว่าเครื่องขยายเสียงพร้อมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ประกาศแจ้งข่าวเตือนภัยพิบัติตามธรรมชาติ และใช้ในกิจกรรมผู้สูงอายุ ถูกคนร้ายขโมยหายไปสร้างความเดือดร้อนแก่คนในชุมชนเป็นอย่างมาก

         เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายอาจจะมีมากกว่าสองคนขึ้นไป อาศัยช่วงเวลากลางคืนที่มีฝนตก แอบย่องมาก่อเหตุ ซึ่งอาคารหลังดังกล่าวอยู่ติดลำห้วยด้านหลังเป็นป่ารกทึบ จึงทำให้คนร้ายก่อเหตุได้อย่างสะดวกไร้คนพบเห็น ถึงแม้อาคารดังกล่าวจะทำประตูกันขโมยปิดล็อคถึงสองชั้นก็ยังไม่สามารถกันขโมยได้

         ซึ่งตำรวจคาดว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่ออกอาละวาดตะเวนงัดบ้านเรือนของประชาชนในเขตอำเภอแม่สอดแบบรายวันในช่วงเวลากลางคืน โดยเฉพาะคืนฝนตก ซึ่งขณะนี้ตำรวจฝ่ายสืบสวนและฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้อย่างเร่งด่วนแล้

 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ  :  http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000072224