ล่าสุดทาง HP ได้เปิดตัว แท็บเล็ตที่ตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานอย่างครบครันในรุ่น Elite x2 ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในแบบโน๊ตบุ๊คผสานกับความสะดวกสบายแบบแท็บเล็ตได้อย่างลงตัว เหมาะกับการใช้ในการทำงานได้หลากหลายรูปแบบ

         HP Elite x2 สามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัวไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม มาพร้อมกับ ปากกาคุณภาพสูง HP Active Pen ตามมาตรฐานการผลิตของ WACOM แข็งแรง ทนทาน ใช้งานผ่าน Bluetooth ทางแอพพลิเคชั่นได้ รวมถึงคีย์บอร์ด HP Advanced Keyboard ที่สามารถถอดออกให้ใช้งานได้ ในระบบเซ็นเซอร์ NFC ในทัชแพ็ด และสมาร์ทการ์ดรีดเดอร์เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยในการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการใช้งานในองค์กร

มิติใหม่แห่งดีไซน์และประสิทธิภาพการทำงาน

         การดีไซน์ที่เหนือระดับ รังสรรค์จากวัสดุอลูมิเนียม CNC ที่เน้นความทนทาน และความสวยงามของรูปทรงที่บางเพียง 8.1 มม. และหนักไม่ถึง 840 กรัม มีขาดั้งแบบ Built-in ที่สามารถปรับการวางได้ถึง 150 องศา ให้ใช้งานกับ HP Advanced Keyboard ได้อย่างสะดวกและมีคล่องตัวมากขึ้น พร้อมกับให้ภาพที่คมชัดทั้งแนวตั้งและแนวนอน ด้วยระบบป้องกันแสงสะท้อนและปรับหน้าจออัตโนมัติตามสภาพแสงที่แตกต่างกัน

HP Elite x2

คุณสมบัติของตัวเครื่อง

  • หน้าจอขนาด 12 นิ้ว แสดงผลแบบ Full HD ในอัตราส่วน 4:3
  • หน้าจอแบบ Gorilla Glass 4 ทนทานกันรอยขีดข่วน
  • หน่วยประมวลผล Intel Core M vPro Gen 6
  • ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10
  • รองรับการเชื่อมต่อแบบ 3G/4G ด้วยเทคโนโลยี QualcommSnapdragon X5 LTE
  • ราคา 34,990 บาท (จัดวางจำหน่ายในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2559)

ด้านความปลอดภัยในการใช้งาน

        ในรุ่น Elite x2 นี้ได้ติดตั้งระบบด้านการรักษาความปลอดภัยต่างๆ แบบบิวท์อินภายในตัวเครื่อง ได้แก่ HP Sure Start with Dynamic Protection, HP Client Security, TPM และออฟชั่นเสริมอย่างเครื่องอ่านลายนิ้วมือและสมาร์ทการ์ดรีดเดอร์ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัยจากการโจรกรรมทางด้านข้อมูลต่างๆ

         นอกจากนี้ทาง HP ยังได้เปิดตัวบริการรูปแบบใหม่ อย่าง DaaS (Device-as-a-Service) ที่เป็น บริการด้านอุปกรณ์ไอที ที่คอยดูแลจัดการ และเปลี่ยนอัพเกรดอุปกรณ์ไอทีต่างๆ ได้สะดวกและรวดเร็วยื่งขึ้นในตลอดอายุช่วงอายุการใช้งาน พร้อมทั้งช่วยให้การทำงานของฝ่ายไอทีในสำนักงานและองค์กรต่างๆ สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางด้านคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ, คอมพิวเตอร์โน๊คบุ๊ค, แท็บเล็ต และเวิร์คสเตชั่น

         โดยจะเสียค่าบริการราคาเดียวต่อหนึ่งการให้บริการตลอดระยะสัญญา 3 ปี หรือ 4 ปีซึ่งผู้ใช้สามารถกำหนดได้เองตามความต้องการ รวมถึงการเลือกประเภทบริการได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การบริการตั้งค่าระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ , การซ่อมบำรุงนอกสถานที่ รวมถึงการโอนย้ายข้อมูลต่างๆ ได้ ถือเป็นรูปแบบบริการที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานอุปกรณ์ไอทีที่ดีเยี่ยมกว่าที่ผ่านมา

 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ  :  Thaiware