ข่าวแม่สอด : คดีฝรั่งสาวโร่แจ้ง ถูกรูดทรัพย์ หลังสอบอย่างหนักจึงพบว่าเสียพนันหมดตัว
วันนี้ (3 เม.ย.59) ที่สถานีตำรวจภูธรแม่สอด จังหวัดตาก พันตำรวจเอก จำแรง สุดใจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 31 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.แม่สอดได้รับแจ้งความจาก นางสาวแครี่แจน แม็กไครรี่ อายุ 40 ปี สัญชาติออสเตรเลีย ซึ่งเป็นอาสาสมัครมูลนิธิแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สอด และนายพิวพิจ่อ อายุ 24 ปี สัญชาติพม่า ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม ว่าได้เกิดเหตุ 7 คนร้ายสวมผ้าปิดบังใบหน้าก่อเหตุปิดถนนดักปล้นและชิงเงินสดจำนวน 38,000 บาท ก่อนคนร้ายหลบหนี โดยเหตุเกิดบนถนนสายทางเข้าหมู่บ้านท่าอาจ หมู่ที่ 3 ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จนเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วประเทศ
หลังเกิดเหตุตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.แม่สอด ได้รีบจัดกำลังไปติดตามและสืบสวนหาตัวคนร้าย และสอบสวนผู้เสียหายทั้งสองในขณะนั้น แต่ผลการนำตัวนางสาวแครี่แคน และนายพิวพิจ่อไปทำการสอบสวนอย่างละเอียด ก็ปรากฏว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องเท็จที่ทั้งสองสร้างข่าวขึ้นมาจนสร้างความปั่นป่วนเสียหายไปทั้งอำเภอแม่สอดหลังปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ
โดยผลการสอบสวนทั้งสองยอมรับสารภาพกับตำรวจว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องเท็จ ส่วนสาเหตุที่กุข่าวเท็จก็เนื่องจากก่อนเกิดเหตุทั้งสองได้แอบไปกดเงินขององค์กรไปใช้เล่นการพนันในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ปรากฏว่าเล่นเสียพนันจนเงินหมด และไม่สามารถหาเงินมาชดใช้ได้ทัน จึงกุข่าวสร้างเรื่องเท็จว่าเงินทั้งหมดนั้นถูกกลุ่มโจรจำนวน 7 คนมาดักปล้นชิงหลบหนีไป
แต่ภายหลังตำรวจสอบปากคำทั้งสองกลับให้การวกวนและขัดแย้งกันเองจนตำรวจต้องแยกสอบ จนทั้งสองยอมรับสารภาพว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเท็จ เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองว่าแจ้งความเท็จ และส่งสำนวนดำเนินคดีเพื่อเป็นคดีตัวอย่าง
ด้านพันตำรวจเอก จำแรง สุดใจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด ได้แถลงต่อไปว่า ในเขตท้องที่อำเภอแม่สอดเป็นพื้นที่ปลอดภัยนักท่องเที่ยวสามารถมาท่องเที่ยวได้ตามปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้การต้อนรับและดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี และจะดำเนินคดีต่อสองนักท่องเที่ยวที่สร้างข่าวเท็จจนทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเสียหาย ทั้งที่พื้นที่อำเภอแม่สอดเป็นเมืองสงบและไม่มีเหตุร้ายแต่อย่างใด
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอดเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหา แต่นางสาวแครี่แจนได้พยายามที่จะฆ่าตัวตาย โดยการกินยากล่อมประสาทจำนวน 3เม็ด และใช้เชือกไนลอนแขวนคอตัวเองกับราวตากผ้า แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงได้เข้าไปพบ และช่วยชีวิตได้ทันจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลแม่สอดอินเตอร์เนชั่นแนลในเวลาต่อมา
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : Manager.co.th