ข่าวแม่สอด : สั่งยึดข้าว คาดสวมเป็นข้าวไทยลักลอบ 7 พ่วง สามแสน กก.
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 (แม่สอด)ร่วมกับ สำนักงานพานิชย์จังหวัดตาก ฝ่ายปกครอง เข้าทำการตรวจสอบรถบรรทุกพ่วงจำนวน 7 คัน บรรทุกข้าวพ่วงละกว่า 40-45 ตัน รวมกว่า 3.0 แสนกิโลกรัม ขณะกำลังติดเครื่องยนต์ เตรียมเคลื่อนย้ายออกไปยังต่างจังหวัด โดยทำการตรวจที่ ที่บริเวณถนนเฉลิมเทพ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ใกล้กับจุดเอกเรย์ของด่านศุลกากรแม่สอด
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นข้าวสาร คล้ายหอมสุรินทร์ มีเพียงบางส่วนเป็นปลายข้าว ที่คนขับรถอ้างว่ามีการนำเข้าเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงมีการเรียกเอกสารตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง สุดท้ายไม่ปรากฏว่ามีการขออนุญาตเคลื่อนย้ายการนำเข้าจากต่างประเทศอย่างถูกต้อง โดยเอกสารระบุว่าต้นทางของข้าวทั้งหมดกว่า 3.0 แสนกิโลกรัม มาจาก บริษัท โรงสีแห่งหนึ่ง ในฝั่งไทย ทั้งๆที่ต้นทางของข้าวมาจากประเทศเมียนมา ผ่านช่องทางสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 ที่บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ,แม่สอด นำเข้ามาคาดว่าเพื่อทำการสวมสิทธิ์เป็นข้าวในฝั่งไทย
นายปรมัตถ์พงษ์ พลเยี่ยม ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการประกอบธุรกิจและการค้า กล่าวว่า ผู้ประกอบการรายนี้ไม่มีใบอนุญาตนำเข้าที่ถูกต้อง แต่อ้างว่ามีการเสียภาษีอย่างถูกต้อง แต่ก็ขอตรวจสอบให้ถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ทำการตรวจยึดไว้ข้าวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินคดี และนำคนขับรถบรรทุกทั้ง 7 พ่วงไปลงบันทึกประจำวันทางคดี ทั้งนี้หลังจากดำเนินคดีคาดว่าจะต้องนำข้าวที่ถูกยึดไว้นำไปประมูลขายต่อไป
ขณะเดียวกันระหว่างที่มีการจับกุมตรวจยึดนั้น ได้ มีการบุคคล 2 ราย แจ้งว่าเป็นเจ้าของและผู้จัดการบริษัท โรงสีแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก นำเอกสารเข้ามาพูดคุย ชี้แจง เจรจา ว่า ได้เสียภาษีอย่างถูกต้อง มีเอกสารการนำเข้าอย่างถูกต้อง กับเจ้าหน้าที่พาณิชย์และฝ่ายปกครองจังหวัดตาก เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าเอกสารไม่ถูกต้อง ต้องนำข้าวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด ทำให้เกิดความไม่พอใจ และว่าถูกกลั่นแกล้ง โดยอ้างว่าก่อนหน้านั้นมีการนำเข้ามากกว่า 200-300 พ่วง ในรูปแบบนี้ ตามเอกสารแบบนี้ยังไม่เป็นไรก็สามารถผ่านไปได้ แต่ครั้งนี้ทำไมมาจับกุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันจำเป็นต้องส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด จ.ตาก
ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ จาก AEC อาเซียน NEWS