8 ก.พ. เปลี่ยนผ้าไตรจีวรครองหลวงพ่อครูบากัญไชย กาญจโน
ความเคารพศรัทธาในพิธีกรรม ๑
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นวันเปลี่ยนผ้าไตรจีวรครองของหลวงพ่อครูบากัญไชย กาญจโน แห่งวัดมาตานุสรณ์แล้วนะครับ ท่านที่เคารพครับ ย้อนอดีตไปเมื่อปี 2510 ผมได้กราบคารวะฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ของพระเดชพระคุณท่านเป็นต้นมาจวบจนหลวงพ่อครูบากัญไชย กาญจโน ท่านได้ลาลับละสังขารสันตกาลผ่านพ้นเมื่อปี 2542 ผมสับเปลี่ยนหมุนเวียนกับสานุศิษย์คนอื่น ๆ ติดตามดูแลปรนนิบัติรับใช้ท่านไปยังจังหวัดต่าง ๆ เมื่อท่านเอาธุระในกิจนิมนต์ จวบจนบั้นปลายชีวิตของพระเดชพระคุณที่ผมและครอบครัวได้มีโอกาสติดตามดูแลพระเดชพระคุณท่านอย่างใกล้ชิดที่สุด ความจริงแล้วหลวงพ่อท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งข้าราชการ ทหาร พ่อค้าคหบดี และชาวไร่ชาวสวน ที่แวะเวียนนมัสการกราบไหว้ท่านอยู่เป็นประจำ หลายคนคงกังขาว่าทำไมลุงหั่งชอบพูดชอบเขียนว่า มีสามลูกศิษย์ของท่านที่ผมหมายถึง ลุงหั่ง ท่านครูบาวัฒน์และท่านครูบาเงิน ตลอดระยะเวลากว่าสิบปีที่ผ่านพ้น ที่ผมเอ่ยอ้างก็เพราะเป็นความจริงที่ผมและ 2 ท่านครูบาเจ้า ยังเป็นผู้สืบทอดเจตนารมณ์ของหลวงพ่ออยู่ในเรื่องพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เป็นรูปธรรม และก็เป็นความจริงว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อครูบากัญไชย เป็นพระเถระผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ มีจริยาวัตรนุ่มนวล มีปฏิปทาอันงดงาม สมเป็นสมณสารูปทุกอย่าง พลังจิตที่เปี่ยมไปด้วยอัปปนาสมาธิ ท่านล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ผมเคยเล่าในคอลัมน์คอกาแฟมาแล้วหลายครั้ง ที่ท่านบอกให้ผมก่อตั้งหน่วยกู้ภัยขึ้นมาเพื่อช่วยรักษาเมืองแม่สอดเอาไว้ โดยการตั้งหน่วยดับเพลิงขึ้นมาเพื่อรองรับเหตุเพลิงไหม้ที่อาจจะเกิดขึ้นแก่ตลาดแม่สอดและชุมชนต่าง ๆ ที่ท่านบอกจำนวนครั้ง และวันเดือนปีที่เกิด เมื่อครบตามนั้น แม่สอดก็อยู่รอดปลอดภัยจากเหตุเพลิงไหม้นับแต่นั้นมา ท่านมองกาลไกลว่า ผมกับสองครูบาเจ้าคือท่านครูบาวัฒน์และท่านครูบาเงิน จะต้องเป็นผู้สืบทอดความรู้ความเข้าใจ และสามารถเป็นขวัญกำลังให้แก่ชาวบ้านได้ ท่านจึงถ่ายทอดวิชาอาคมให้เราทั้งสามคน กับพิธีกรรมต่าง ๆ โหราศาสตร์พื้นบ้านและอื่น ๆ อีกมากมาย หลายท่านคงทราบดีลุงหั่งไม่มีลูกศิษย์ที่มารับสืบทอดวิชาต่าง ๆ จากลุงหั่งอย่างจริงจัง ฉะนั้นผมจึงเขียนหนังสือที่เกี่ยวกับพิธีกรรม เวทมนต์คาถา โหราศาสตร์พื้นบ้านแจกให้แก่ผู้ที่เคารพศรัทธาต่อหลวงพ่อ และท่านเจ้าพ่อพะวอ ทุกพิธีการ ทุกพิธีกรรม จะเห็นได้ว่า ในขณะที่ลุงหั่งเป็นกถิกาจารย์เจ้าพิธีจึงมีเครื่องขยายเสียงให้คนได้ยินได้ฟังอย่างชัดเจน นี่แหละลุงหั่งกำลังถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ ออกไปให้ผู้คนที่สนใจเก็บบันทึกไว้ ซึ่งแต่ละปีลุงหั่งจะมีของดีออกมาเป็นระยะ ๆ
ครั้งแรกที่ผมได้ก่อสร้างศาลเจ้าพ่อพะวอไชยมงคล อัญเชิญพระรูปจำลองของท่านเจ้าพ่อพะวอที่สลักด้วยไม้ขนุนทองมีอายุขัยกว่าสองร้อยปี แต่ผมขอเรียกขานว่า เจ้าพ่อพะวอไม้ขนุนทอง 120 ปี เพื่อให้เป็นรองของวัดไทยสามัคคีที่สร้างขึ้นมาเป็นครูก่อนใคร พอเปิดศาลได้ไม่นาน อาเจ๊อาเสี่ย อาซ้อจากทุกสารทิศที่พบเห็นในอินเตอร์เน็ตต่างพากันมาแวะเวียนที่ศาลเจ้าพ่อพะวอที่บ้านผมเป็นจำนวนมาก ก็เพราะบริการดีมีฟรีทุกอย่าง แถมไม่มีค่าครูหรือขอรับบริจาค ผมกับหมอแต๋วจึงเดือดร้อน ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ต้องคอยต้อนรับขับสู้บรรดาอาเสี่ยทั้งหลาย หลายคนที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักผู้คนทั่วประเทศ ในที่สุดผมก็ประกาศงดรับแขกบ้านแขกเมือง ที่พี่น้องชาวแม่สอดบ้านเรานี่แหละชอบแนะนำมา ( และบอกไปทุก ๆครั้งว่า ผมไม่ใช่ร่างทรงนะครับ อิอิ… ) ทุกวันนี้ผมและครอบครัวมีความสุขพอสมควร โดยนึกถึงคำสอนของหลวงพ่อและวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อว่า ท่านไม่เคยอวดอ้างอุตริมนุสธรรมใด ๆ เพียงแต่หากมีอะไรที่ผิดสังเกตหรือมีสิ่งบอกเหตุที่มาจากพิธีกรรม โดยเฉพาะวันเจ้าพ่อพะวอ ซึ่งชาวแม่สอดไม่ควรลบหลู่ ดังเช่นบอกเหตุเภทภัยจากอุบัติตายหมู่บนดอยรวก ในพิธีกรรมก็ยังบอกไว้ล่วงหน้า และก็เกิดขึ้นมาจริง ๆ เมื่อมีสิ่งบอกเหตุผมก็จะจัดให้มีพิธีสืบชะตาเมืองแม่สอด สืบชะตาหมู่บ้านต่าง ๆ และอัญเชิญรูปจำลองของท่านเจ้าพ่อพะวอแห่แหนไปรอบ ๆ ตลาดแม่สอดเป็นสิริมงคล เป็นคติความเชื่อและความเคารพศรัทธาเชื่อมั่นว่า ท่านเจ้าพ่อพะวอสามารถดลบันดาลประทานพรความนิรันตรายทั้งปวงแก่เราท่านทั้งหลายได้อย่างปาฏิหาริย์และอัศจรรย์ที่สุด คณะทำงานของเราทุกรูปทุกคนมีความภาคภูมิใจ ว่าสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นตามหลาย ๆ กระแส ก็ไม่เกิดขึ้นอย่างที่เราคาดหมาย
ตลอดชีวิตที่อยู่ในวงล้อมของความศักดิ์สิทธิ์ที่เราสามารถสัมผัสได้ พิธีกรรมความเคารพศรัทธาความเชื่อจากพิธีกรรมต่าง ๆ หรือจากพระราชพิธี ดังที่ผมเคยกราบเรียนว่าเราแยกกันไม่ออกหรอกครับ พิธีสงฆ์และพิธีพราหมณ์ ปัจจุบันเราจะก้าวหน้าทันสมัย พิธีกรรมความเชื่อ ความศักดิ์สิทธิ์ และโหราศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ แม้จะแตกต่างกันและขัดแย้งกัน แต่ ณ บัดนี้สังคมไทยเรา จะเป็นสังคมที่ค่อนข้างเปิดกว้าง เปิดรับแนวคิดต่าง ๆ ทั้งศาสนา โหราศาสตร์ พิธีกรรม วิทยาศาสตร์และการเมือง แม้ประเทศไทยจะนับถือพระพุทธศาสนามานานนับพัน ๆ ปี แต่ก็ต้องยอมรับนับถือและเชื่อมั่นในพิธีกรรมต่าง ๆ จากพุทธศาสนา และศาสนาพราหมณ์ ผมชอบศึกษาหาความรู้จากประวัติศาสตร์ชาติไทยมาพอสมควร เมื่อ 400 กว่าปีมาแล้วในรัชสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ท่านประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ หลายพิธีก่อนจะออกศึก พระองค์ท่านประกอบพิธีตัดไม้ข่มนามที่ทุ่งลุงพลี ประกอบพิธีบำบวงเซ่นสรวงหรือพิธีบวงสรวงสักการะนี่แหละ จากนั้นหลายร้อยปีที่ผ่านมาจวบจนปัจจุบัน
เห็นจะไม่ต้องเล่านะครับ เอาแค่ 24 มกราคม 2559ที่ผ่านมา ลูกศิษย์ของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม แห่งวัดอัมพวันสิงห์บุรี ( ท่านได้ละสังขารไปเมื่อ 25 มกราคม 2559 แล้วครับ )จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญเทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองรักษาให้หลวงพ่อหายจากอาพาธ หลังจากท่านเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อ 2 เดือนก่อน ( ใครชอบโจมตีเรื่องพิธีกรรมขอได้โปรดอ่านหลาย ๆ ครั้งด้วย ) พิธีตัดไม้ข่มนามเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหารหาญทั้งปวง ทำให้กำลังใจของทหารกล้าของไทย แม้จะมีกำลังไม่มากมายเท่ากับกำลังของข้าศึกศัตรู แต่ก็สร้างความฮึกเหิมแก่บรรดาทหารกล้าทุก ๆ คน เฉกเช่นพระเดชพระคุณหลวงพ่อครูบากัญไชย กาญจโน พระอาจารย์ของผม ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่ท่านอยู่วัดมาตานุสรณ์ ท่านสร้างวัตถุมงคลของท่านเพียง 6 รุ่นเท่านั้น ทุกครั้งที่ท่านมอบวัตถุมงคลให้แก่ผู้ใด ท่านจะสร้างความอบอุ่นใจ และความปีติยินดีแก่ผู้รับทุกครั้ง บางรายท่านจะทราบด้วยญาณอันสูงส่งของท่านเหมือนรู้ใจ ท่านจะสร้างความมั่นใจแก่ผู้รับว่าสิ่งของนั้น ๆ ผ่านการปลุกเสกมาหรือไม่
( ลุงหั่งโชคดีที่ได้รับเมตตาจึงมีสิ่งนี้จากท่าน ) ให้ทุกคนเกิดความปีติและเกิดความหวงแหนสิ่งของที่ท่านมอบให้ เพราะท่านต้องใช้เวลามากในการปลุกเสก หรือพุทธาภิเษกมาหลายครั้ง ท่านได้ละสังขารไปนานแล้วถึง 17 ปีเต็มในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นวันครบรอบการละสังขารของท่าน ทางวัดจัดให้มีพิธีบวงสรวงและเปลี่ยนผ้าไตรจีวรครองของอมตสรีระสังขารของท่านในยามบ่ายวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559 เราไปไหว้สาบูชาอมตะสรีระสังขารของเทพเจ้านักบุญแห่งลุ่มแม่น้ำเมย ครูบาเจ้ากั๋ญไชย ก๋าญจโน พระมหาเถโรด้วยกันครับ.
ชัย เมืองฉอด