ข่าวแม่สอด : ไฟเขียวบีโอไอตั้งสำนักงานภาค7 บูมลงทุนแม่สอด-เหนือตอนล่าง
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน วานนี้(15ส.ค.) ได้อนุมัติตามที่สำนักงานพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) เสนอให้ปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) โดยการตั้งศูนย์เศรษฐกิจการลงทุน ภาคที่7 ขึ้นที่ จ.พิษณุโลก เพื่อรับผิดชอบการลงทุนในเขตภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตรและอุทัยธานี จากเดิมที่ทั้ง 9 จังหวัดอยู่ภายใต้การดูแลของภาคที่1 ที่ตั้ง ณ จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่7 จะอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ชักจูงและสร้างเครือข่ายนักลงทุนในพื้นที่ เชื่อมโยงอุตสาหกรรมในประเทศและต่างประเทศ รับผิดชอบเกี่ยวกับการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษซึ่งเติบโตสูง เช่น เขตพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ที่ลงทุนขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงการพัฒนาธุรกิจเอสเอ็มอีในท้องถิ่นให้มีความเข้มแข็งผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะใน 13 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายและ 10 กิจการเป้าหมาย ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาลให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งเป็นการเน้นการส่งเสริมการลงทุนลงไปในพื้นที่ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญต่อช่วยเหลือให้ประชาชนในท้องถิ่นมีช่องทางที่จะเพิ่มรายได้ให้สูงขึ้นในระยะต่อไป
โดยในการพิจารณาแยกส่วนงานออกมาเป็นอีก 1 ศูนย์นี้ บีโอไอได้พิจารณาแล้วว่าศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 7 มีปริมาณงานที่ใกล้เคียงกับศูนย์เศรษฐกิจลงทุนภาคที่ 3 จ.ขอนแก่น จึงเหมาะสมเพียงพอที่จะจัดตั้งเป็นส่วนราชการได้
นอกจากนี้ ยังเป็นการสอดคล้องกับแนวนโยบายของบีโอไอมีการปรับเปลี่ยนไปเน้นการส่งเสริมในระดับพื้นที่ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดและพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่เศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) และเขตเศรษฐกิจพิเศษ และสนับสนุนการขยายพื้นที่การลงทุนไปยังจังหวัดเป้าหมายใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการลงทุนเพื่อดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(FDI) ให้ได้ตามเป้าหมายของรัฐบาล รวมถึง จ.พิษณุโลกที่เป็นศูนย์กลางของโครงข่ายเส้นทางคมนาคมสู่อินโดจีน ทำให้เหมาะสมต่อการเป็นจุดกระจายสินค้าและจุดเชื่อมต่อกับอินโดจีน
ขอขอบคุณข้อมูล จาก http://www.komchadluek.net/news/economic/292072