เทคโนโลยี เครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งอนาคต ผลิตภัณฑ์ LG เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำภายใต้แบรนด์ LG SIGNATURE ภายในงาน CES 2016 โดย LG SIGNATURE นั้นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและการออกแบบที่ดีที่สุด ซึ่งทั้งหมดจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างลงตัว และในการเริ่มต้นเปิดตัว LG SIGNATURE ครั้งนี้ LG ก็ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์กลุ่มแรกได้แก่ สมาร์ททีวี OLED TV 4K รองรับ HDR , เครื่องซักผ้า TWIN Wash™, ตู้เย็นดีไซน์สวยที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำแบบ Door-in-Door™, เครื่องฟอกอากาศแบบไฮบริด , เตาอบรุ่นใหม่ และเครื่องล้างจาน TurboSteam™ โดยในอนาคต LG มีนโยบายที่จะได้เพิ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆตามมาให้อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ LG SIGNATURE อีกมากมาย
เริ่มทำความรู้จักกันกับผลิตภัณฑ์แรกกับสมาร์ททีวี LG SIGNATURE OLED TV ที่คว้ารางวัล Best of Innovation award จากงาน CES 2016 ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์จาก LG ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าและยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ LG ภูมิใจนำเสนอด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพอย่างไม่หยุดยั้ง โดย LG SIGNATURE OLED TV นั้นเป็นการออกแบบที่เน้นคอนเซ็ปของความเรียบง่าย แต่สง่างาม มีการตัดในส่วนขององค์ประกอบที่ไม่จำเป็นบนหน้าจอ OLED TV ออกไปเพื่อไม่ให้เป็นการกวนสายตาแก่ผู้ใช้งาน ตัวเครื่องมีการออกแบบที่เป็นลักษณะเฉพาะของ LG ที่ไม่เหมือนใคร กับการออกแบบในลักษณะ Picture-on-Glass design หน้าจอบางเพียง 2.57 มิลลิเมตรในแบบ ultra-thin , ระบบเสียงและลำโพงแบบ Sound Bar Speaker เพื่อให้เป็นการผสมผสานการออกแบบให้ดูลงตัว เข้าได้กับทุกการตกแต่งได้ดีกว่า การใช้ลำโพงแบบขาตั้ง
สมาร์ททีวี LG SIGNATURE OLED TV นี้ยังได้มีการใช้มาตรฐาน Ultra HD Premium seal of recognition จาก UHD Alliance (UHDA) , รองรับ HDR , เทคโนโลยี Pixel Dimming, 10-bit panel/10-bit processing power, ColorPrime Pro และรองรับ webOS 3.0
LG SIGNATURE Washing Machine เครื่องซักผ้าที่ต้องบอกว่าเป็นการพัฒนาต่อยอดจาก LG TWIN Wash™ ที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2015 ที่ผ่านมา โดยเครื่องซักผ้า LG SIGNATURE นี้จะมาพร้อมกับตัวถังขนาด 24 นิ้วที่มีความทนทานมากยิ่งขึ้น ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และยังมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครกับถังซักแบบ MINI Wash ที่อยู่ด้านล่างถังซักหลัก
เครื่องซักผ้า LG SIGNATURE มาพร้อมกับคุณสมบัติเด่นๆมากมายเช่นการปรับปรุง Quick Circle User Interface กับการใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้น โดยที่ประตูฝาหน้ามีการใช้กระจกโค้ง 17 องศา ซึ่งเป็นองศาที่สามารถใช้งานได้สะดวกในขณะที่ยืนใช้งาน การเปิดฝาของตัวเครื่องมีการใช้ระบบ Push Open ซึ่งทำให้สามารถเปิดได้ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก ในขณะที่ระบบการซักได้มีการปรับปรุงระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการซักที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยระบบ Centum System™ ซึ่งจะเป็นระบบการซักที่ทรงพลังสามารถซักผ้าได้สะอาด ในขณะที่ตัวเครื่องมีการทำงานที่เงียบกว่าเดิม ทั้งนี้ เครื่องซักผ้า LG SIGNATURE จะวางจำหน่ายกันในหลากหลายรุ่น หลากหลายดีไซน์ รวมถึงในสหรัฐอเมริกายังมีแผนในการวางจำหน่ายรุ่นที่มีขนาดถังซักใหญ่กว่าเดิมถึง 30 นิ้วอีกด้วย
LG SIGNATURE Refrigerator ตู้เย็นแบบ Door-in-door ที่มีการพัฒนาวิวัฒนาการใหม่ที่นอกจาก จะเน้นเรื่องของความสดใหม่ในการรักษาของภายในตู้เย็นแล้ว ยังได้มีการออกแบบการใช้งานให้สะดวกมากยิ่งขึ้นจนทำให้ตู้เย็น LG SIGNATURE ได้รับรางวัลทางด้านผลิตภัณฑ์ในสาขา Door-in-Door™ Design ภายในงาน
ด้วยฟีเจอร์ของ Knock-on Door-in-Door กับการเปลี่ยนบานประตูตู้เย็นจากทึบๆให้กลายเป็นแบบโปร่งใส ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นสิ่งของที่อยู่ภายในตู้เย็นได้โดยไม่ต้องเปิดประตูตู้เย็น ซึ่งจะเป็นการช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าในการเปิดประตูตู้เย็นไปได้มากเลยทีเดียว มีการใช้นวัตกรรมของระบบการเปิดประตูตู้เย็นแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นแม้ในขณะที่กำลังถือของอยู่เต็มมือก็ตาม ในขณะที่ภายในตู้เย็นได้มีการใช้ระบบ LG Inverter Linear Compressor ที่จะทำการคำนวณ และปรับความเย็นภายในตู้เย็นอย่างอัตโนมัติ โดยอาศัยปัจจัยต่างๆ ภายในตู้เย็นยกตัวอย่างเช่น ปริมาณของที่มีในตู้เย็น เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการออกแบบตัวตู้เย็นที่มีความแตกต่างไม่เหมือนใครและยังรับประกันสินค้าถึง 10 ปีอีกด้วย
และสุดท้ายกับเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งอนาคต ได้แก่เครื่องกรองอากาศ LG SIGNATURE Air Purifier ด้วยความเชื่อของ LG ที่ว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการได้อยู่ในที่อากาศบริสุทธิ์ LG จึงได้พัฒนาเครื่องกรองอากาศที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่จะไม่ทำลายสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยจะมีการใช้ฟีเจอร์ของ Aqua-Cyclone ซึ่งจะนำพลังและประสิทธิภาพจากน้ำ เพื่อกรองสารเคมี และสารปนเปื้อนได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็จะสามารถทำให้อากาศภายในห้องเกิดความชื้นในระดับที่สบายและดีต่อสุขภาพอีกด้วย ส่วนระบบตัวกรองนั้นได้มีการใช้ LG’s Semi-Permanent Filter System ซึ่งจะสามารถทำความสะอาดและนำแผ่นกรองกลับมาใช้งานได้นานถึง 10 ปี ซึ่งจะสามารถช่วยประหยัดได้ทั้งเวลาและเงินได้เป็นอย่างดีทีเดียว
ไม่เพียงเท่านั้น เครื่องกรองอากาศ LG SIGNATURE ยังมาพร้อมกับความสามารถในการตรวจสอบระดับของฝุ่นละอองและสารปนเปื้อนภายในอากาศ กับ LG’s Smart PM1.0 Indicator ซึ่งจะสามารถแสดงผลให้เห็นถึงระดับปริมาณฝุ่นละอองในบริเวณห้องด้วยการแยกให้เห็นเป็นลักษณะสีที่แตกต่างกันถึง 4 สีอีกด้วย
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ LG SIGNATURE ทั้งหลายเหล่านี้ จะเริ่มมีการนำออกสู่ตลาดในทวีปอเมริกาเหนือยุโรปและเอเชีย หลังจากจบงาน CES 2016 และในอนาคต LG ยังคงมีนโยบายที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆเข้ามาอีกอย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นอะไรและมีนวัตกรรมอย่างไรนั้นคงต้องมาติดตามกันต่อไป
ที่มา – LG
