ข่าวแม่สอด : สยอง.รถตู้พม่าชน จยย.2 แม่ลูกร่างกระเด็น-ทับซ้ำดับ 2 ศพ
เกิดอุบัติเหตุสยองกลางดึก รถตู้พม่า ชนจักรยานยนต์สองแม่ลูกขณะกำลังยูเทิร์นกลับบ้านกลางแม่สอด ร่างกระเด็น ก่อนทับซ้ำ-ลากร่างหนุ่มคนขับ จยย.ติดใต้ท้องรถไปไกลนับร้อยเมตร ดับสยอง 2 ศพ แถมคนขับทิ้งรถหลบหนี แต่ไปไม่รอด
ร.ต.อ.ประยูร กมลา ร้อยเวรสอบสวน สภ.แม่สอด จ.ตาก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถตู้โดยสารระหว่างประเทศ ชนรถจักรยานยนต์และมีผู้เสียชีวิตหลายราย บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 9 ถนนสายแม่สอด-ตาก เขตเทศบาลนครแม่สอด คืนที่ผ่านมา(5 มิ.ย.) จึงพร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด และหน่วยกู้ชีพแม่สอด รีบเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดพบรถตู้โดยสาร สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียนประเทศเมียนมาจอดอยู่กลางถนน สภาพกระจกหน้าแตกยุบ ล้อยางรถแตกระเบิด 2 เส้น ไม่สามารถขับเคลื่อนได้ ส่วนคนขับได้ทิ้งรถวิ่งหนีไปหลังเกิดเหตุ แต่ก็ไปไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายโบโบมิว ไม่มีนามสกุล อายุ 30 ปี และนายลามินทูน อายุ 35 ปี พนักงานประจำรถตู้ ตำรวจจึงนำตัวไป สภ.แม่สอด
ขณะเดียวกันที่กลางถนน พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กง-4480 ตาก จอดพลิกคว่ำอยู่ สภาพรถถูกชนที่ด้านท้ายอย่างแรง ห่างกันไม่มากนักพบศพผู้เสียชีวิต 2 ศพ ซึ่งเป็นแม่ลูกกัน คือ นางสุคำ ส่างแก้ว อายุ 54 ปี สภาพศีรษะแตกยุบกระดูกหักหลายท่อน เลือดไหลนองเต็มถนน
และห่างไปกว่า 100 เมตร พบศพนายกิตติธร ส่างแก้ว อายุ 26 ปี นอนเสียชีวิตอย่างสยดสยองติดคาใต้ท้องรถตู้ สภาพแทบจำใบหน้าเดิมไม่ได้ ศีรษะถูกล้อรถตู้ทับจนสมองแตกกระจายเต็มถนน ชาวบ้านกว่า20 คน ต้องมาช่วยกันยกรถตู้ขึ้นก่อนจึงสามารถนำศพนายกิตติธร ออกมาได้ ก่อนหน่วยกู้ภัยจะนำศพสองแม่ลูกที่เสียชีวิต ส่งโรงพยาบาลแม่สอด เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรศพอีกครั้ง
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า หลังเลิกงานกลางดึก นายกิตติธร ได้ขับรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ พานางสุคำ ผู้เป็นมารดา เดินทางกลับบ้านพัก แต่พอขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดกลับรถ ได้มีรถยนต์ตู้โดยสารระหว่างประเทศ ที่ขับมาด้วยความเร็วสูง พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ของสองแม่ลูกอย่างแรง เสียงดังสนั่น ทำให้สองแม่ลูกถูกชนร่างกระเด็นตกจากรถลอยไปกระแทกกับกระจกหน้ารถตู้จนกระจกรถตู้แตก
จากนั้นรถตู้ ได้ทับร่างนางสุคำ ซ้ำจนเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ขณะที่ร่างนายกิตติธร ลอยติดไปในใต้ท้องรถตู้ และถูกลากไปไกลกว่า 100 เมตร เสียชีวิตเป็นรายที่สอง ส่วนคนขับรถตู้ และพนักงานประจำรถ ได้ทิ้งรถหลบหนี แต่ก็ไปไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ติดตามจับกุมตัวได้ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก และถูกควบคุมตัวไปสอบสวนโดยมีล่ามมาร่วมแปลภาษาในระหว่างการสอบสวน
ขณะที่ชาวบ้านจำนวนมากต่างวิงวอนผ่านสื่อมวลชนว่า จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นถนนสายหลักเข้าอำเภอแม่สอด มีเสาไฟฟ้าสวยงาม แต่กลับใช้การไม่ได้หลายจุด เนื่องจากเสาไฟชำรุดโดยไม่ทราบสาเหตุมานาน และขาดการซ่อมแซมรักษา โดยเฉพาะเวลากลางคืนบริเวณจุดเกิดเหตุจะมืดมาก จนส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง จึงขอให้หน่วยงานราชการส่วนที่รับผิดชอบเร่งลงพื้นที่มาซ่อมแซมแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน
ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ โดย http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000068670