ข่าวแม่สอด : รอง ผวจ.ตาก-ผบ.ฉก.ร.14 เปิดงานวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 ที่บริเวณสนามกีฬาโรงเรียนเทศบาลวัดดอนแก้ว เทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก-พ.อ.อาสาฬหะ พูลสุวรรณ “ผู้การเปิ้ล” ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 แม่สอด เป็นประธานเปิดงานวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า ประจำปี 2562 โดยมีนายสุรพจน์ กาญจนสิงห์ ผู้อำนวยการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่14(ตาก)พร้อมด้วยข้าราชการ ประชาชน หน่วยงานในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 (ตาก)ตลอดจนสถานศึกษาอีกหลายแห่งทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงาน กว่า 1,000 คน
โดยในงาน มีกิจกรรมประกอบด้วย การจัดบอร์ดนิทรรศการ เพื่อเผยแพร่ความรู้ของหน่วยงานควบคุมไฟป่า ในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 (ตาก) การรวมพลังรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า
นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2543 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2543 กำหนดให้วันที่ 24 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า ในวันนี้ตามรายงานที่ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า กล่าวถึงพิษภัยของหมอกควันไฟป่า และค่าฝุ่นละอองในอากาศที่เกิดจากการเผาพื้นที่เกษตรกรรม และพื้นที่ป่ามีปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน หรือ PM 10 (พี-เอม-เทน) เกินมาตรฐานอยู่ถึง 21 วัน และมีปริมาณ PM 10 (พี-เอม-เทน) สูงสุดถึง 192 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในปีพุทธศักราช 2561 ยังพบว่าจังหวัดตาก ติดอันดับ 1 ใน 3 ของจังหวัดที่พบว่า มีปริมาณค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ซึ่งเกินเกณฑ์มาตรฐาน ถือว่าสภาพอากาศอยู่ในขั้นวิกฤต และจังหวัดตากได้มีประกาศจังหวัดตาก ลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 กำหนดให้ช่วงระหว่างวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 – 30 เมษายน 2562 เป็นช่วงห้ามเผาเด็ดขาด เป็นระยะเวลา 72 วันซึ่ง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 14 (ตาก) ได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงร่วมกับอำเภอแม่สอด จัดให้มีกิจกรรมในวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่าขึ้นเป็นพิเศษในท้องที่อำเภอแม่สอด เพื่อรณรงค์ให้ประชาชน และเกษตรกรงดการจุดไฟเผาป่า เพื่อลดควันไฟที่เกิดจากการเผาป่า ตลอดจนสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษา หน่วยงานราชการ องค์กรเอกชน ให้ตระหนักถึงอันตรายจากไฟป่า อันเป็นการรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้คงอยู่ เพื่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนโดยรวมต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ จาก AEC อาเซียน NEWS