ฝรั่งสาวโร่แจ้ง ตร. อ้างถูกโจรปิดหน้าชิงทรัพย์คาชายแดนแม่สอด
ข่าวแม่สอด : ตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวมทั้ง ชรบ.ชายแดนแม่สอด ต้องระดมกำลังพร้อมอาวุธครบมือล่าคนร้ายกันทั้งคืน หลังนักท่องเที่ยวฝรั่งสาว พร้อมชาวพม่าโร่แจ้งความถูกคนร้าย 7 คนใช้ผ้าปิดหน้าดักทำร้าย-ชิงทรัพย์ แต่จนถึงขณะนี้ยังไร้ร่องรอย
รายงานข่าวจากจังหวัดตากแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด และฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด จ.ตาก พร้อมอาวุธครบมือต้องเร่งเข้าตรวจสอบพื้นที่ชายแดนแม่สอด กลางดึกที่ผ่านมา (31 มี.ค.) หลังได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนร้ายหลายคนก่อเหตุปล้นทรัพย์นักท่องเที่ยวได้เงินสด และหลบหนี โดยเหตุเกิดที่บนถนนสายทางเข้าออกหมู่บ้านท่าอาจ หมู่ที่ 3 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด
ที่เกิดเหตุเป็นถนนหน้าวัดคอกช้างเผือก ใกล้กับแม่น้ำเมย ติดชายแดนไทย-พม่า บริเวณทางโค้งของถนนที่เปลี่ยว และไม่มีบ้านเรือนชาวบ้าน พบมิสไครรี่ อายุ 40 ปี สัญชาติออสเตรเลีย และนายเพียวพีจ่อ อายุ 24 ปี สัญชาติพม่า ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม ทั้งสองอยู่ในอาการที่ยังไม่หายตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จึงทำการปลอบขวัญให้กำลังใจ
มิสไครรี่ให้การต่อตำรวจเบื้องต้นโดยผ่านล่ามแปลภาษาว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปกดเงินสดจำนวน 38,000 บาทจากตู้เอทีเอ็มในเขตเทศบาลนครแม่สอด จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์เดินทางมารับแฟนหนุ่มภายในหมู่บ้านท่าอาจ ติดชายแดนไทย-พม่า แล้วพากันขี่รถออกจากหมู่บ้านเพื่อกลับบ้านพัก
แต่เมื่อขี่รถมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางขึ้นลงเนินเขา และปลอดจากบ้านคน จู่ๆ ก็มีคนร้ายเป็นชายจำนวน 7 คนที่ดักซุ่มในที่มืดข้างทาง ใช้ท่อนไม้ขว้างใส่รถของตนจนรถเสียหลักพุ่งลงข้างทาง จากนั้นคนร้ายทั้งหมดที่สวมผ้าปิดบังและอำพรางใบหน้า ต่างพากันวิ่งออกมาจากข้างทางพร้อมอาวุธไม่ทราบชนิด ตรงเข้ามาบังคับให้ตนเอง และแฟนหนุ่มส่งกระเป๋าถือที่มีเงินสดอยู่ให้ จนเกิดการต่อสู้ตนเองบาดเจ็บที่บริเวณลำคอ ก่อนที่คนร้ายจะสามารถชิงเอากระเป๋าเงินสดแล้วรีบหลบหนีเข้าไปในป่าทึบหายตัวไปกับความมืด พอตั้งสติได้ก็รีบขี่รถไปแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่โดยทันที
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.แม่สอด และฝ่ายปกครอง กองร้อย อส. อำเภอแม่สอด ได้ระดมกำลังพร้อมอาวุธเข้าทำการปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้แนวชายแดน พร้อมจัดกำลังตั้งจุดตรวจ และออกไล่ล่ากลุ่มคนร้าย แต่จนถึงขณะนี้ไม่พบตัวคนร้าย และเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่ชำนานพื้นที่เป็นอย่างดี เนื่องจากคนร้ายรู้เส้นทางหลบหนีได้อย่างรวดเร็ว
ขอขอบคุณภาพ-เนื้อข่าวโดย manager.co.th