ข่าวแม่สอด : ผลการตรวจโรงงานไฟฟ้าขยะชุมชนแม่กุ ผ่านฉลุยไม่เกินค่ามาตรฐาน
ผลการตรวจโรงงานไฟฟ้าขยะชุมชนแม่กุ ผ่านฉลุยไม่เกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะฝุ่นละอ่องรวมที่บ้านชาวบ้าน ร้องเรียน ระหว่าง 0.33 / 0.4 ต่างกันลิ่ว หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเก็บตัวอย่างไปตรวจ ผู้ประกอบการหวังดันเป็นโรงงานต้นแบบ ของประเทศไทย
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิเคราะห์ และพัฒนาสิ่งแวดล้อม โรงงานภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ เข้าทำการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ระดับเสียง และเก็บตัวอย่างน้ำเสียของโรงงาน เพื่อประกอบการหาแนวทางแก้ไข ที่โรงงานไฟฟ้า ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากขยะชุมชน หมู่ที่ 8 ต.แม่กุ บ้านแม่กุเหนือ อ.แม่สอด โดย บริษัท จีเนียส เอ็นเนอจี้ จำกัด เป็นผู้บริหารงานเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา หลังจากที่กลุ่มแกนนำนักการเมืองในพื้นที่ และชาวบ้านร้องเรียน ว่า มีกลิ่นเหม็น ปล่อยน้ำเสีย และสร้างปัญหามลพิษนั้น ขณะนี้ มีผลออกมาแล้ว คือ ภาพโดยรวม ที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปตรวจสอบ ถือว่า ผ่านมาตรฐาน ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เช่น การวัดฝุ่นละอองรวมที่บ้านนางจันทร์แก้ว ฝอยจันทร์ พบว่า มีค่า 0.4 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตรไม่เกินค่ามาตรฐาน จากค่ามาตรฐาน 0.33 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และระดับเสียง ระดับเสียงรบกวน ต่างๆ และตัวชี้วัดอื่นๆ ตามข้อร้องเรียนไม่เกินค่ามาตรฐาน
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.ตาก ได้สั่งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และ
ล่าสุด พล.ต.สุภโชค ธวัชพีระชัย รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วยคณะ เดินทางไปติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาโรงงานผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน และชีวมวล โดยสถานการณ์ได้คลี่คลายไปในทางดี แต่ได้เน้น ให้หน่วยงานในพื้นที่ เข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชน
ด้านนายมงคลกานต์ ศรีสุวรรณ ผู้บริหารบริษัทจีเนียส เอ็นเนอจี้ จำกัด กล่าวว่า โรงงานไฟฟ้าขยะชุมชนแม่กุ ได้พัฒนามาตลอด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหามลภาวะ จากเดิม ที่เข้าไปพัฒนาพื้นที่ในช่วงแรกก่อนที่จะสร้างโรงงานไฟฟ้าจากขยะนั้น มีกลิ่นเหม็น และ มีแมลงวันจำนวนมาก เพราะเป็นที่ทิ้งขยะของท้องถิ่น พอโรงงานเข้าไปพัฒนาพื้นที่ เท่ากับการกำจัดขยะบริเวณนั้น ทำให้กลิ่นเหม็นลดลง และแมลงวันก็มีน้อยมาก ซึ่งปัจจุบันสภาพแวดล้อมดีขึ้น และจะผลักดันให้เป็นโรงงานต้นแบบ ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม
ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ จาก AEC อาเซียน NEWS