ข่าวต่างประเทศ : ปูตินโวยสหรัฐฯจุดชนวนเพิ่มความเสี่ยงสงครามนิวเคลียร์ทำลายล้างโลก!!

ปูตินโวยสหรัฐฯจุดชนวนเพิ่มความเสี่ยงสงครามนิวเคลียร์ทำลายล้างโลก!!

รอยเตอร์ – ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ในวันพฤหัสบดี(20ธ.ค.) กล่าวหาสหรัฐฯ เพิ่มความเสี่ยงสงครามนิวเคลียร์ ด้วยการขู่ละทิ้งสนธิสัญญาควบคุมอาวุธที่สำคัญฉบับหนึ่งและปฏิเสธเปิดเจรจาในข้อตกลงอีกฉบับที่จะหมดอายุลงเร็วๆนี้

      ระหว่างการแถลงข่าวที่ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ปูตินได้กล่าวสนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ตัดสินใจถอนทหารออกจากซีเรีย และแสดงความคิดเห็นว่า เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่มีทางเลือกยกเว้นแต่ดำเนินการเบร็กซิต และประชาธิปไตยในตะวันตกกำลังตกอยู่ภายใต้ความตึงเครียดร้ายแรง

      ความเห็นต่อประเด็นต่างๆเหล่านั้นเกิดขึ้นระหว่างการแถลงข่าวสรุปผลงานประจำปี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 14 โดย ปูติน มักใช้โอกาสนี้ส่งเสริมความเป็นผู้นำของเขา รวมถึงส่งสารต่างๆถึงพันธมิตรและเหล่าคู่อริ

      ในปีนี้ ปูติน ได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดคืออันตรายจากการแข่งขันทางอาวุธรอบใหม่ บางอย่างที่ประธานาธิบดีรัสเซียรายนี้เคยกล่าวหาสหรัฐฯว่าเป็นผู้จุดชนวนขึ้น ด้วยการหันหลังให้กับสนธิสัญญาควบคุมอาวุธ

      วอชิงตันเคยขู่ถอนตัวจากสนธิสัญญากองกำลังนิวเคลียร์พิสัยกลาง (Intermediate-Range Nuclear Forces Treaty – INF) ปี 1987 ซึ่งห้ามมอสโกและวอชิงตันจากการประจำการขีปนาวุธยิงจากภาคพื้น ทั้งพิสัยใกล้และพิสัยปานกลางในยุโรป

       ปูตินบอกว่าความเคลื่อนไหวนี้ ซึ่งหากว่าเป็นจริง มันจะก่อผลตามมาที่มิอาจคาดเดาได้ “เรากำลังเป็นสักขีพยานแห่งการละเมิดกฎระเบียบควบคุมอาวุธนานาชาติและจุดเริ่มต้นแห่งการแข่งขันทางอาวุธ” ปูตินบอกกับผู้สื่อข่าวมากกว่า 1,000 คน

     “มันเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าสถานการณ์จะมีพัฒนาการไปอย่างไร(หากสหรัฐฯถอนตัวจากสนธิสัญญาINF) หากขีปนาวุธเหล่านี้ปรากฏตัวในยุโรป เราควรทำอะไรนะหรือ? แน่นอน เราจำเป็นต้องรับประกันความปลอดภัยของตนเอง”

      ก่อนหน้านี้ ปูติน เคยบอกว่า รัสเซีย กำลังถูกบีบให้ฝึกซ้อมยิงขีปนาวุธโจมตีประเทศต่างๆในยุโรปซึ่งเป็นที่ตั้งของจรวดสหรัฐฯ

      ส่วนอีกสนธิสัญญาหนึ่งระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย ก็คือข้อตกลง New START ซึ่งจำกัดจำนวนประจำการหัวรบนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ที่แต่ละฝ่ายพึงมี จะหมดอายุลงในปี 2021 ปูตินบอกว่าเขารู้สึกกังวลที่วอชิงตันไม่มีท่าทีสนใจเปิดเจรจาหารือเกี่ยวกับอนาคตของมันเลย

      “ยังไม่มีการพูดคุยขยายข้อตกลงนี้กันเลย หรือสหรัฐฯไม่สนใจมัน หรือพวกเขาไม่ต้องการมันอีกแล้ว? โอเคละ เราจะอยู่รอดและจะรับประกันความปลอดภัยของตนเอง ซึ่งเรารู้ว่าต้องทำอย่างไร แต่โดยทั่วไป นี่มันเลวร้ายต่อมนุษยชาติมาก เพราะว่ามันนำเราเข้าใกล้ปฐมบทแห่งความอันตราย”

      ปูตินซึ่งเคยอวดอ้างว่ามอสโกได้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ที่เขาเชื่อว่าทำให้รัสเซียอยู่เหนือประเทศอื่นๆ เตือนว่าความขัดแย้งทางนิวเคลียร์กำลังขยายตัวขึ้นอันเป็นผลจากความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ

       นอกจากนี้เขายังเตือนด้วยว่าการลดระดับการป้องกันการใช้อาวุธนิวเคลียร์และลดการสกัดกั้นแนวคิดใช้ขีปนาวุธติดหัวรบ อาจทำให้โลกตกอยู่ในอันตราย “บางอย่างที่ดูเหมือนกำลังเกิดขึ้น ดังที่พระเจ้าทรงห้ามไว้ มันอาจนำไปสู่จุดจบของอารยธรรมทั้งมวลและบางทีอาจรวมถึงโลกใบนี้ด้วย” เขากล่าว

      แม้วิพากษ์วิจารณ์วอชิงตัน แต่ปูตินแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเขาหวังพบปะกับทรัมป์อีกครั้งเร็วๆนี้ โดยบอกว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่ทั้งสองผู้นำต้องหารือกันในประเด็นต่างๆ อย่างเช่นการแข่งขันทางอาวุธ

ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ จาก MGR Online