ข่าวทั่วไป : ปชป. แจงนโยบายเกิดปั๊บรับแสน มุ่งยกระดับชีวิตเด็กไทย ไม่ได้เป็นแค่การแจกเงิน
กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงนโยบายเกิดปั๊บรับแสน มอบเงินให้เด็กแรกเกิด จนถึง 8 ขวบ ชี้เป็นนโยบายที่จะทำให้เด็กเก่ง แข็งแรง และมีทักษะเผชิญโลกยุคใหม่ เป็นการยกระดับเด็กไทย ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
จากรณีที่ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Korn Chatikavanij อธิบายถึงแนวทางนโยบายของพรรค พร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้ โดยทางพรรค ต้องการมุ่งเน้น 10 นโยบายหลัก สำหรับนโยบายแรกก็คือ “ยกเครื่องการศึกษาไทย” หัวใจของนโยบายรนี้คือการมุ่งเน้นการพัฒนาเด็ก ตาม 7 เป้าหมายหลัก เพื่อแก้ปัญหาหลักของการศึกษาไทย โดยนโยบายเกี่ยวกับการศึกษาทั้ง 10 นโยบาย หนึ่งในนั้นคือ นโยบายเกิดปั๊บรับแสน
นโยบายนี้เป็นสิ่งที่ผู้คนในสังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และได้วิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งตั้งคำถามว่า ทำไมทางพรรคถึงได้เน้นเรื่องการแจกเงิน แทนที่จะปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม และอยากให้มุ่งเน้นไปที่เรื่องการจัดรูปแบบการเรียนการสอน รวมทั้งส่งเสริมให้คนเก่ง ๆ เข้ามาเป็นครูให้มากขึ้น และน่าจะมีการมองในระยะยาวมากกว่านี้
ล่าสุด นายกรณ์ได้เข้ามาชี้แจงบนเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับนโยบาย เกิดปั๊บรับแสน ที่สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยนโยบายนี้ไม่ได้เป็นการแจกเงิน 100,000 บาท ก้อนใหญ่ก้อนเดียวให้เด็กตอนแรกเกิด แต่เป็นการมอบเงินสนุบสนุนในระยะยาว โดยเด็กทารกแรกเกิดจะได้รับเงิน “เด็กเข้มแข็ง” 5,000 บาท ในเดือนแรก และเดือนต่อ ๆ มา เดือน ละ 1,000 บาท เรื่อยไปจนเด็กอายุครบ 8 ขวบ รวมเป็นเงิน 100,000 บาท นั่นเอง นายกรณ์กล่าวอีกว่า ถ้าหากทางพรรคมีโอกาสได้ผลักดันนโยบายตามที่เสนอ เชื่อว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาของไทย เด็กไทยจะแข็งแรงขึ้น เก่งขึ้น และมีทักษะที่ช่วยให้เผชิญกับโลกยุคใหม่ได้ดีขึ้นกว่าเดิม
“ผมขอชี้แจงง่าย ๆ ว่า เงินเดือนเดือนละพัน มีคำถามเยอะที่สุด แต่จริง ๆ แล้วทางวิชาการเป็นเรื่องที่จำเป็นมากที่สุดเรื่องหนึ่ง วัตถุประสงค์คือ ช่วยเป็นค่าอาหาร ให้เด็กไทยมีโภชนาการที่ดีขึ้น ช่วงที่สำคัญมากคือช่วง 8 ปีแรก ซึ่ง 1,000 บาทต่อเดือน นักวิชาการ TDRI ยังบอกว่าน้อยไป (1,000/30วัน/3มื้อ = มื้อละ 11บาท) เด็กไทยถึงไม่พัฒนา ส่วนที่ให้ ‘ถ้วนหน้า’ เพราะจากประสบการณ์ รัฐไม่เก่งเรื่องการคัดกรอง คือคัดแล้วคนจนจริงจะไม่ได้สิทธิเสียเยอะ ยิ่งมีเงื่อนไขมากคนจนจริงยิ่งเข้าถึงยาก” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ
ขอขอบคุณข้อมูล-ภาพ จาก Kapook