ข่าวทั่วไป : บ.ปิโตรเลียมแห่งชาติจีนหยุดขายเชื้อเพลิงให้ “โสมแดง” หวั่นโดน “คิม” ชักดาบ
บริษัทปิโตรเลียมแห่งชาติจีน (China National Petroleum Corp – CNPC) หยุดจำหน่ายเชื้อเพลิงให้แก่เกาหลีเหนือ ด้วยเกรงว่าเปียงยางอาจถูกคว่ำบาตรจนไม่มีปัญญาชำระหนี้ และใช้วิธี “ชักดาบ” เอาดื้อๆ (ข่าวจากรอยเตอร์)
ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าจีนซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่ส่งออกน้ำมันดีเซลและแก๊สโซลีนป้อนเกาหลีเหนือจะงดจำหน่ายไปอีกนานเท่าใด แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อ รัฐโสมแดงอาจเผชิญวิกฤตขาดแคลนเชื้อเพลิง และจำเป็นต้องแสวงหาทางเลือกอื่นๆ
CNPC และกระทรวงพาณิชย์จีนยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อสื่อมวลชนในเรื่องนี้ เช่นเดียวกับกระทรวงการต่างประเทศจีนและสถานทูตเกาหลีเหนือในกรุงปักกิ่ง ซึ่งไม่ขอตอบคำถาม
แหล่งข่าวซึ่งทราบข้อมูลโดยตรงระบุว่า CNPC หยุดจำหน่ายเชื้อเพลิงให้เกาหลีเหนือมาประมาณ “1-2 เดือนแล้ว” ซึ่งเป็นการตัดสินใจ “ด้วยเหตุผลทางการค้า”
ธนาคารของจีนและนานาชาติได้เพิ่มมาตรการตรวจสอบบริษัทที่ทำธุรกรรมการเงินกับประเทศที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ โดยเฉพาะเกาหลีเหนือ ซึ่งทำให้ CNPC คิดว่า “ไม่คุ้มที่จะเสี่ยงอีกต่อไป”
แหล่งข่าวบอกด้วยว่า ระยะหลังๆ ตัวแทนของรัฐบาลโสมแดงซึ่งทำหน้าที่จัดซื้อน้ำมันดีเซลและแก๊สโซลีนไม่สามารถนำเงินมาชำระหนี้ได้ ในขณะที่ CNPC กำหนดให้ลูกค้าต้องจ่ายเงินทันทีแบบยื่นหมูยื่นแมว
แหล่งข่าวอีก 2 คนซึ่งให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ ยืนยันว่า CNPC ระงับการขายน้ำมันดีเซลให้เกาหลีเหนือจริง แต่ไม่ทราบว่ารวมถึงแก๊สโซลีนด้วยหรือไม่
รัฐบาลจีนได้ส่งออกแก๊สโซลีน 96,000 ตัน และน้ำมันดีเซลอีกเกือบ 45,000 ตัน รวมมูลค่า 64,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปยังเกาหลีเหนือในปีที่แล้ว ซึ่งเชื้อเพลิงเหล่านี้ถูกกระจายไปยังทุกภาคส่วน ตั้งแต่ชาวประมง ชาวนา คนขับรถบรรทุก เรื่อยมายันกองทัพโสมแดง
เชื้อเพลิงส่วนใหญ่ถูกจำหน่ายโดย CNPC ซึ่งแทบจะผูกขาดการค้าพลังงานกับเกาหลีเหนือในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
ข้อมูลเดือน พ.ค. ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (23) พบว่า น้ำมันดีเซลและแก๊สโซลีนที่จีนส่งขายให้เกาหลีเหนือลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้า ซึ่งโดยปกติแล้วยอดการจำหน่ายในแต่ละเดือนอาจแตกต่างกันได้ จึงต้องรอติดตามข้อมูลเดือน มิ.ย. ซึ่งจะถูกเผยแพร่ราวๆ ปลายเดือน ก.ค.
ราคาเชื้อเพลิงในเกาหลีเหนือพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ซึ่งเป็นสัญญาณบอกถึงภาวะขาดแคลน
รอยเตอร์ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ออนไลน์ เดลี เอ็นเค ของเกาหลีเหนือ และพบว่า ราคาแก๊สโซลีนซึ่งจำหน่ายโดยเอกชนในเปียงยาง รวมถึงเมืองชายแดนตอนเหนืออย่างซินุยจู (Sinuiju) และ ฮเยซาน (Hyesan) พุ่งแตะระดับ 1.46 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัมเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 50% จากราคาเมื่อวันที่ 21 เม.ย. ทั้งที่ก่อนหน้านั้นราคาเชื้อเพลิงค่อนข้างคงที่มาโดยตลอดตั้งแต่ช่วงปีที่แล้ว
ราคาน้ำมันดีเซลก็พุ่งสูงขึ้นเป็น 1.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัม ในวันที่ 21 เม.ย. หรือเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในระยะเวลาเพียง 1 เดือน
การที่เปียงยางเดินหน้าทดสอบขีปนาวุธและนิวเคลียร์ถี่ขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้จีนซึ่งครอบครองส่วนแบ่งการค้าของเกาหลีเหนือถึง 90% จำเป็นต้องมีมาตรการกดดัน
เมื่อเดือน ก.พ. ปักกิ่งประกาศจะงดซื้อถ่านหินจากเกาหลีเหนือไปจนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งเท่ากับปิดช่องทางรายได้หลักของรัฐบาลเปียงยาง
เกาหลีเหนือส่งออกถ่านหินให้แก่จีนมากถึง 22.5 ล้านตันในปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่าราว 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรจีน
สหรัฐฯ พยายามโน้มน้าวให้จีนบีบคั้นเกาหลีเหนือทางเศรษฐกิจและการทูตให้มากกว่านี้ แต่ปักกิ่งก็ยืนยันว่าพวกเขามีอิทธิพลต่อโสมแดง “อย่างจำกัด” และทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว
เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ 3 คนเผยกับรอยเตอร์เมื่อวานนี้ (27) ว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มไม่สบอารมณ์ที่ปักกิ่งยังคงนิ่งเฉยต่อปัญหาเกาหลีเหนือและการค้าทวิภาคีกับสหรัฐฯ และกำลังพิจารณาว่าอาจจะใช้บทลงโทษทางการค้ากับจีน
ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลว่าจีนงดจำหน่าย “น้ำมันดิบ” ให้แก่เปียงยางด้วยหรือไม่
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จีนไม่เคยเปิดเผยยอดการส่งออกน้ำมันดิบไปยังเกาหลีเหนือ แต่ข้อมูลจากแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมระบุว่า มีการลำเลียงน้ำมันดิบผ่านท่อส่งน้ำมันเข้าไปยังรัฐโสมแดงประมาณ 520,000 ต่อปี ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามราคาตลาดในปัจจุบัน
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ: http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9600000065729