ข่าวแม่สอด : ตรวจเข้มพม่าเข้าเมือง หวั่นไข้หวัดH1N1 หลังยอดตายเพิ่มเป็น 12 ติดเชื้อ 71

ไทยเข้มงวดชาวเมียนมา เข้าเมือง หวั่นไข้หวัดเอช 1 เอ็น 1 ระบาดเข้ามา แจกหน้ากากอนามัย

       เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560 พ.ต.ท.สมพงษ์ ไสยมรรคา รองผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)จังหวัดตาก(ด่านแม่สอด) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก และนายเสกสรรค์ สีแก้ว หัวหน้าด่านควบคุมโรคติดต่อ ประจำด่านพรมแดนไทย – เมียนมา บ้านริมเมย หมู่ 2 ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้ตั้งโต๊ะ ตรวจตรากลั่นกรอง สังเกต ชาวเมียนมา ที่เดินทางเข้าเมืองผ่านสะพานมิตรภาพไทย -เมียนมา แม่สอด – เมียวดี โดยมีการสังเกต และแจกหน้ากากอนามัยสำหรับปิดปาก และจมูกให้กับชาวเมียนมา ทั้งนี้เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เอช 1 เอ็น 1 ที่กำลังระบาดในประเทศเมียนมา จนมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 12 คน และพบเชื้อ 71 คน ซึ่งยังเป็นตัวเลขที่ไม่หยุดนิ่ง โดยกระจายไปหลายเมืองในประเทศเมียนมา โดยมาตรการของฝ่ายไทย ในการป้องกันโรคดังกล่าวนี้ เนื่องจากมีแรงงานเมียนมา เข้า – ออกด่านพรมแดนทุกวัน จึงป้องกันไว้ก่อน เบื้องต้น ยังไม่พบผู้ป่วย จากชาวเมียนมา ที่เข้าเมืองมาแต่อย่างใด อย่างไรก็ดีชาวเมียนมา ส่วนมากเริ่มตื่นตัวใช้หน้ากากอนามัยปิดปาก และจมูกกันเพิ่มมากขึ้น

        รอง.ผกก.ด่าน ตม.ตาก(แม่สอด) กล่าวว่า ตรวจคนข้าเมืองจังหวัด.ตาก ได้มีการประสานกับ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเมียวดี รวมทั้งโรงพยาบาลทั้ง 2 ฝั่งไทย เมียนมา ว่า หากมีการพบผู้ป่วย ก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ในการอำนวยความสะดวกเพื่อการรักษาได้ทันที

ขณะที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงว่า
ข้อเท็จจริงกรณีมีรายงานข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ในประเทศเพื่อนบ้าน

-เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล / ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ / เป็นสายพันธุ์เดียวกันกับในวัคซีน
-ไข้หวัดใหญ่ ทุกสายพันธุ์ ป้องกันได้ด้วยมาตรการ “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด”
-ปิด คือปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม หากเป็นไข้หวัดใหญ่ ควรใส่หน้ากากอนามัย
-ล้าง คือล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่เมื่อสัมผัสสิ่งของ
-เลี่ยง คือหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย
-หยุด คือเมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน
-กรมควบคุมโรค ได้สั่งการไปยังด่านควบคุมโรคฯ ทุกแห่งให้มีการคุมเข้มและเฝ้าระวังผู้เดินทางที่มีอาการสงสัยป่วย แจกหน้ากากอนามัย รวมถึงประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคที่ควรระมัดระวังในช่วงนี้
-สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

ขอขอบคุณภาพ-ข้อมูลจาก AEC อาเซียน NEWS