ข่าวสุขภาพ : กินสมุนไพร “หนานเฉาเหว่ย” แบบไหนถึงปลอดภัย
กรมแพทย์แผนไทย ชี้ กินสมุนไพรหนานเฉาเหว่ย ช่วยลดน้ำตาลในเลือด แต่อันตราย คนปกติควรกิน 1-2 ใบต่อวัน กินเป็นผักแนม กินแบบวันเว้นวัน หากน้ำตาลในเลือดสูง ต้องปรึกษาแพทย์ร่วมด้วย
วันนี้ (8 ก.พ.) นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวในงานเสวนา “หนานเฉาเหว่ย ใช้อย่างไรห่างไกลตับไตวาย” ว่า หนานเฉาเหว่ย เป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยม แต่ก็มีกระแสว่า มีพิษต่อไตและตับ อย่างไรก็ตาม จริงๆ แล้วหนานเฉาเหว่ยมีสรรพคุณลดน้ำตาลในเลือด แต่ต้องใช้ให้ถูกต้อง และรู้จริงว่า ควรใช้ปริมาณมากน้อยแค่ไหน และควรรับประทานตามที่แพทย์สั่ง เหมือนสมุนไพรชนิดอื่นๆ อย่าไปใช้ตามโซเชียลแนะนำ เพราะหนานเฉาเหว่ยหากใช้น้อยไปก็อาจไม่หาย ใช้มากไปก็อาจส่งผลถึงขั้นเสียชีวิตได้ เช่นเดียวกับยาแผนปัจจุบันที่หากรับประทานมากไปก็จะเป็นอันตรายได้
“เมื่อรับประทานหนานเฉาเหว่ย ก็ต้องรับประทานยาแผนปัจจุบันร่วมด้วย และที่สำคัญต้องแจ้งแพทย์แผนปัจจุบันให้รับทราบด้วย เพื่อทำการสังเกตอาการ ส่วนกลุ่มที่ห้ามรับประทานหนานเฉาเหว่ย คือกลุ่มผู้ป่วยตับและไต อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนทั่วไป หากอยากได้ข้อมูลสมุนไพรที่ถูกต้องสามารถดาวน์โหลดแอปพิเคชัน HerbID ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ให้ข้อมูลสมุนไพร โดยขณะนี้มีข้อมูลสมุนไพรแล้วกว่า 50 ชนิด ซึ่งในแอปฯ นี้จะให้ข้อมูลและรายละเอียดสรรพคุณของสมุนไพรอย่างละเอียด และในอนาคตตั้งเป้าจะมีการเก็บรวบรวมพืชสมุนไพรให้ได้ 500 – 1,000 ชนิด” นพ.มรุตกล่าว
พญ.สุภินดา ศิริลักษณ์ หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า จากการสอบถามผู้สูงอายุที่รับประทานหนานเฉาเหว่ย พบว่า ร้อยละ 98 คนไข้ไม่รู้ตัวว่า ไตตัวเองเสื่อม ร่างกายไม่ได้แสดงออกชัด จนกว่าจะมีการตัวบวมก็เมื่อป่วยไตในระดับที่ 5 ทำให้การรักษาล่าช้า และการเลือกแพทย์แผนไทยมารับประทานแต่ก็ขาดความเข้าใจ
ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า การรับประทานหนานเฉาเหว่ย ที่ปลอดภัยไม่ควรเกิน 1-2 ใบต่อวัน สามารถรับประทานได้ทั้งแบบสดและต้ม หรือจะรับประทานเป็นผักแนมกับผักสดอื่นก็ได้แบบวันเว้นวัน กรณีที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคหรือมีระดับน้ำตาลในเลือดไม่เกิน100-120 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนคนที่มีระดับน้ำตาลสูงไม่แนะนำให้กินเองทุกวัน ขอให้ปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบันร่วม อย่างไรก็ตาม การที่เราจัดเสวนาในครั้งนี้เนื่องจากต้องการให้ทุกคนรู้จักใช้สมุนไพรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และที่สำคัญก่อนจะรับประทานขอให้ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าสิ่งที่กินเข้าไปเป็นสมุนไพรชนิดที่ต้องการกินจริงๆ เนื่องจากเคยมีผู้ป่วยรับประทานสมุนไพรผิดชนิด ซึ่งหากใครสงสัยสามารถสอบถามเข้ามาที่รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้เลย
